ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ (รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ)

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์

สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ณ ห้องประชุม VIP ชั้น 5 สำนักงานอธิการดี

รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ

        รางวัลที่ภาคภูมิใจที่สุดในประเทศไทย ก็คือ รางวัลหรือการยอมรับที่ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อ พ.ศ. 2546 ซึ่งปีนั้นมีผู้ได้รับพระราชทาน เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา แค่ 2 คน คือ ผม และ ศ.กิตติคุณ เดชา บุญค้ำ ซึ่งทำงานด้านภูมิสถาปัตยกรรม จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ณ วังหัวหิน (พระราชวังไกลกังวล) แล้วท่านก็เสด็จฯ สนทนาด้วยประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งก็เป็นความภาคภูมิใจที่สุด เรื่องนี้ก็มีภูมิย้อนหลังไปตั้งแต่เด็ก ๆ ตั้งแต่ผมอายุประมาณสัก 10 ขวบ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จ ฯ ต่างจังหวัด ผมก็ได้มีโอกาสรอเข้าเฝ้า เพื่อได้เห็นท่านเพียงไม่กี่นาที ซึ่งตอนนั้นก็ โอ้โห!!! ไปรอตั้งแต่เช้า กว่าท่านจะเสด็จฯ ก็ใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่ก็เป็นความภูมิใจ แล้วก็เป็นเหมือนคนไทยทั่วไป ก็คือว่า เมื่อไรเราจะได้มีโอกาสเข้าเฝ้าท่านอีก ซึ่งจากที่เป็นเด็กชนบท จนกระทั่ง ผมจบแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้เกียรตินิยม มีโอกาสเข้าเฝ้าท่าน พระราชทานปริญญา ผมเป็นคนแรกนะครับ สมัยก่อนมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มีนักศึกษา ปีละแค่ 450 คน ในยุคนั้น ก็มีความภูมิใจว่า ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าท่าน แล้วพอต่อมาก็ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าท่านเป็นระยะ ๆ ผมเป็นประธานจัดการประชุมเกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพในอาเซียน ก็ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าท่านอีก ก็มีรูปด้วย แล้วก็ตอนจบ วปอ. (วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร) เข้ารับพระราชทานปริญญา รับพระราชทานประกาศนียบัตร แล้วก็ พ.ศ. 2546 ก็คือ เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา นอกจากนี้ก็ยังมีโอกาสเข้าเฝ้าท่านในฐานะกรรมการรางวัลมหิดลนานาชาติ เพราะทุก 3 ปี ท่านจะพระราชทานให้เข้าเฝ้า ก็เช่นกัน ก็มีโอกาสเข้าเฝ้าท่านทั้งที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และพระราชวังไกลกังวลที่หัวหิน ทั้งหมดนับเป็นเรื่องของความภูมิใจมากที่สุดเกี่ยวกับรางวัล

        สำหรับรางวัลในประเทศอื่น ๆ ก็อย่างบุคคลดีเด่นของชาติ ตั้งแต่ พ.ศ. 2541 ที่ได้รับทางด้านสังคม ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของการแก้ไขปัญหาโภชนาการทางด้านสาธารณสุข

        สำหรับนานาชาติที่ภูมิใจ ก็คือ ตอนช่วงอายุ 70  ปี คือ รางวัลบุคคลด้านโภชนาการ ที่ทำงานประสบความสำเร็จตลอดชีวิต คือ Lifetime Achievement Award (พ.ศ. 2556 รางวัล The International Union of Nutritional Science Lifetime Achievement Award 2013 หรือ รางวัลผู้ประสบความสำเร็จตลอดชีพ จากสมาพันธ์โภชนาการนานาชาติ เมื่อ พ.ศ. 2556) ของสมาพันธ์โภชนาการนานาชาติ ซึ่งให้รางวัล 1 คนจากสมาชิกทั่วโลก ของสมาคมโภชนาการในแต่ละประเทศ แล้วก็เลือก 1 คน ทุก 4 ปี เพราะฉะนั้น ผมก็เป็นคนที่ 8 เพราะรางวัลนี้ให้มา 32 ปีแล้ว ก็ต้องแข่งกับหลาย ๆ ชาติ ก็ถือว่าเป็นความภูมิใจ สำหรับเรื่องนี้ กว่าจะไปรับรางวัลได้ก็ต้องผจญภัยเยอะเลย เพราะทางสมาพันธ์ ฯ จัดประชุมทุก 4 ปี แล้วปีนั้นมอบรางวัลกันที่ประเทศสเปน เมืองกรานาดา (Granada) และช่วงนั้นพอดีผมต้องตามเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ท่านเสด็จฯ ไปชิคาโก (Chicago) ผมต้องขอพระราชานุญาตว่า บินจากชิคาโก (Chicago) ไปเมืองมาดริก (Madrid) มาดริกไปกรานาดา แล้วไปพักแค่ 1 คืน รุ่งขึ้นเข้ารับรางวัล เวลา 11 โมง และเดินทางจากสถานที่รับรางวัลมาสนามบิน เพื่อบินกลับมาเข้าเฝ้าท่านที่ บอสตัน (Boston) ตอนนั้นต่อเครื่องไม่ทัน ต้องบินไปนิวยอร์ก (New York) มาบอสตัน ดูเหมือนเป็นความยากลำบากในการเดินทาง แต่ทุกอย่างก็เรียบร้อย ผ่านไปด้วยดี อันนี้ก็เป็นความภูมิใจครับ


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้น 3 หอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 73170
โทร 0-2800-2680-9 ต่อ 4346