นายแพทย์เสถียร ตรีทิพย์วณิชย์ (ประวัติในวัยเด็ก)

เรืออากาศตรี นายแพทย์เสถียร ตรีทิพย์วาณิชย์

สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ณ กองศัลยกรรม โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช

เรืออากาศตรี นายแพทย์เสถียร ตรีทิพย์วาณิชย์ ถ่ายเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

        ผมเรืออากาศตรี นายแพทย์เสถียร ตรีทิพย์วาณิชย์ เกิดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2526 ผมเกิดและเติบโตในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี คุณพ่อผมชื่อ นายสุวัฒน์ ตรีทิพย์วาณิชย์ และคุณแม่ผมชื่อ นางสำเนียง ตรีทิพย์วาณิชย์ ผมเป็นลูกคนสุดท้ายของครอบครัว ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 6 คน ผมเข้าเรียนชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษา ช่วงปี พ.ศ. 2530 – 2538 ที่ “โรงเรียนดุสิตวิทยา” ซึ่งเป็นโรงเรียนใกล้บ้านในอำเภอบ้านโป่ง ชีวิตวัยเด็กผมชอบเล่นกีฬามาก โดยเฉพาะฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่เด็กผู้ชายสมัยนั้น นิยมเล่นกันช่วงเย็นหลังเลิกเรียน การเล่นกีฬาของผมตอนนั้นเป็นลักษณะของการออกกำลังกาย เพื่อความสนุกสนานและเพื่อสุขภาพเป็นหลัก โดยไม่ได้มุ่งมั่นฝึกฝน เพื่อความเป็นเลิศแต่อย่างใด

        สำหรับเรื่องการเรียนนั้น ผมไม่ถนัดวิชาที่ต้องใช้ความจำเอาเสียเลย ถ้าพูดกันตามตรงผมถนัดไปทางด้านการคำนวณแค่วิชาเดียว นั่นก็คือ “วิชาคณิตศาสตร์” สมัยเรียนชั้นประถมศึกษา ผมได้มีโอกาสเข้าร่วม การแข่งขันทางด้านคณิตศาสตร์ระดับประเทศ ของสมาคมคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ โดยทางโรงเรียนมอบหมายให้ผมเข้าร่วมแข่งขันประเภททีม 3 คน การแข่งขันครั้งนั้น ทีมเราได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ

        จากการได้รับรางวัลทางคณิตศาสตร์ครั้งนั้น ส่งผลให้ทีมเราทั้ง 3 คน ได้รับโอกาสเข้าศึกษาต่อ ในระดับชั้นมัธยมศึกษา ณ “โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย” ช่วงปี พ.ศ. 2538 – 2544 ชีวิตในช่วงมัธยมของผมยังคงเหมือนเดิมครับ เข้าห้องเรียนเหมือนนักเรียนคนอื่น ๆ หลังเลิกเรียนก็เตะฟุตบอล ตอนนั้นก็เรียนไปเรื่อย ๆ เตะฟุตบอลไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องสอบเอนทรานซ์ (Entrance) เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งสมัยนั้นมีการจัดสอบเอนทรานซ์ทั้งหมด 2 ครั้งต่อปี ครั้งแรกช่วงกลางปีการศึกษา และครั้งที่สองช่วงปลายปีการศึกษา ช่วงเวลานั้นผมยังไม่มีหลักสูตรวิชาใดที่สนใจอยากจะศึกษาต่อเป็นพิเศษ เวลาต่อมาหลังจากสอบเอนทรานซ์รอบแรก ช่วงกลางปีการศึกษาเสร็จ ผลคะแนนสอบพบว่า มีโอกาสจะสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ได้ จึงกลับไปปรึกษากับคุณพ่อคุณแม่ ท่านทั้ง 2 บอกว่า ถ้าคะแนนถึงก็อยากให้ลองเลือกแพทยศาสตร์ไว้ก่อน และด้วยเหตุที่ผมอยากอยู่ใกล้บ้าน ทำให้การสอบเอนทรานซ์รอบที่สอง ผมตั้งเป้าหมายที่จะเอนทรานซ์เข้าเป็นแพทย์สถาบันใดก็ได้ในกรุงเทพฯ เมื่อพิจารณาจากคะแนนการสอบคัดเลือกหลาย ๆ ปีย้อนหลังพบว่า เกณฑ์การสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ในกรุงเทพฯ คะแนนใกล้เคียงกัน โดยคณะแพทยศาสตร์ที่มีคะแนนการสอบคัดเลือกสูงที่สุด คือ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รองลงมาก็จะเป็นคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ผมจึงกรอกใบสมัครตามลำดับคะแนน ผลปรากฏว่า คะแนนผมต่ำกว่าเกณฑ์ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพียงแค่ 0.3 คะแนน จากคะแนนเต็มราว ๆ 778 คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นผลต่างคะแนนที่น้อยมาก เป็น 0.3 คะแนนที่ทำให้ผมได้มีโอกาสเป็นนักศึกษาแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ซึ่งผมได้เจอเรื่องราวดี ๆ มากมายในเวลาต่อมาครับ


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้น 3 หอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 73170
โทร 0-2800-2680-9 ต่อ 4346