คำสอนของคุณพ่อ “ร้อยโทพิศ อมาตยกุล”

           พ่อบอกผมเสมอเลยว่า “...ไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้ใหญ่เหมือนคนอื่น ทำเล็ก ๆ แต่ทำให้กระจ่าง ทำให้ชัด แล้วทำให้คนอื่นเอาไปใช้ได้...” นั่นคือสิ่งที่ต้องการ

          อีกอันที่พ่อพูดเสมอ คือ “...คนเรานี่ ถ้าต้องการให้มีความสุข ทำงานอย่างเดียวไม่ได้...” ผมเป็นคนที่ไม่ได้อยู่กับพ่อนะ นาน ๆ พ่อจะมาหาสักที แต่พอเข้ามาทีไรก็ได้ดีเสมอ เพราะพ่อมักจะสอนหรือให้ข้อคิดดี ๆ ในการดำเนินชีวิตไว้เสมอ

          พ่อเคยบอกว่า “...มนุษย์เราทุกคนเหมือนกับ หม้อข้าว ต้องตั้งอยู่บนเส้า 3 เส้า ไฟ ลมพัด เข้ามาฟืนติดไปได้ทุกทิศ หม้อข้าวจึงจะเดือด ข้าวจึงจะได้กิน ทุกอย่างถ้าตั้งอยู่บนเส้า 3 เส้า จะประสบความสำเร็จ...”

          มนุษย์เราทุกคนต้องมีงาน 3 อย่าง คือ งานหลัก งานรอง งานอดิเรก

       งานหลักของผม คือ เป็นแพทย์ เป็นข้าราชการ งานรองของผมเดิมทีเดียวอาจจะเป็นงานด้านแก้ไขการพูด เด็กพูดไม่ชัด แต่ก็กลายเป็นงานหลัก งานดนตรีก็เหมือนกันเดิมมันเป็นงานอดิเรก แล้วมันก็กลายเป็นงานรอง เพราะมันทำมาหากินได้ ทำเงินได้ แล้วในที่สุดก็เป็นงานหลักอีก ตกลงเส้าของผม 3 เส้า แข็งแรงมาก ทั้งเส้าทางด้าน Speech and Hearing ทางด้านเด็กหูหนวก เส้าทางด้านดนตรี เส้าทางด้านการเป็นแพทย์ ผมมีครบ 3 เส้า เพราะอย่างนั้นผมถึงมีกิน มีใช้ เชื่อไหมผมไม่เคยเป็นหนี้ใคร หรือ ซื้อของเงินผ่อน ไม่เคยเลยทุกอย่าง ถ้าไม่มี ไม่ซื้อ ถ้ามีถึงจะซื้อ และต้องเป็นเงินสด รถทุกคันที่ผมใช้อยู่ทุกวันนี้ ไม่เคยใช้เงินผ่อนเลย ซื้อด้วยเงินสด เพราะผมไม่ชอบเป็นหนี้ใคร ผมเคยเป็นหนี้ เมื่อตอนสมัยเป็นนักเรียนในสหรัฐอเมริกา ผมมีความจำเป็นต้องฝึกภาษาอังกฤษ และผมไม่รู้จะเรียนภาษาอังกฤษกับอะไร การฟังภาษาอังกฤษจากโทรทัศน์ถือว่าเป็นการฝึกภาษาที่ดี แต่ผมไม่มีโทรทัศน์ และผมก็ไม่มีเงินเลย ผมก็เลยต้องผ่อนจ่ายเดือนละ 10 เหรียญ และผมก็ผ่อนซื้อรถยนต์คันแรกที่สหรัฐอเมริกา เพราะก็มีความจำเป็นต้องใช้ ซึ่งทุกคนก็ใช้วิธีการผ่อนจ่ายเช่นกัน แต่เมื่อผมกลับมาเมืองไทย ผมไม่เคยผ่อนอะไรเลย เพราะงานหลัก งานรอง งานอดิเรก 3 งาน ของผมมีรายได้หมดก็เลยอยู่ได้