ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกรียงศักดิ์ จีระแพทย์ (ชีวิตวัยเด็กของเด็กชายเกรียงศักดิ์ จีระแพทย์)

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกรียงศักดิ์ จีระแพทย์

สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562 ณ หออภิบาลทารกแรกเกิด (NICU) ตึกเจ้าฟ้ามหาจักรี ชั้น 2 ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ชีวิตวัยเด็กของเด็กชายเกรียงศักดิ์ จีระแพทย์

        ผม ศ.เกียรติคุณ นพ.เกรียงศักดิ์ จีระแพทย์ เกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2490 ผมเป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด บ้านอยู่ใกล้กับโรงเรียนเทพศิรินทร์ คุณพ่อผมชื่อ นายจุน จีระแพทย์ ประกอบอาชีพทำธุรกิจ ส่วนคุณแม่ชื่อ นางเฉกจู จีระแพทย์ เป็นแม่บ้านดูแลลูก ๆ ผมเป็นลูกคนที่ 3 ในบรรดาพี่น้องผู้ชายทั้งหมด 4 คน ฐานะทางครอบครัวไม่ได้ดีมาก แต่คุณพ่อคุณแม่ก็รักและให้ความอบอุ่นแก่ลูกทุกคน คุณแม่ให้นมแม่แก่พวกเราทุกคนนาน 2-3 ปีจนเติบโตแข็งแรง สมัยที่ลูก ๆ ทุกคนเป็นเด็ก ท่านให้เราเลี้ยงแมว ทำให้พวกเราคลุกคลีกับสัตว์และเรียนรู้ธรรมชาติเกี่ยวกับความรักและการดูแลของแม่สัตว์ต่อลูกสัตว์ ซึ่งประสบการณ์ในวัยเด็กนี้ ผมได้นำมาใช้สอนสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกมนุษย์เมื่อผมสอนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม (mammal) จะมีพฤติกรรมการเลี้ยงและดูแลลูกไม่ต่างกัน

        การเริ่มต้นการศึกษา ผมเริ่มเรียนที่ “คริสตจักรไมตรีจิต” ผมมีความทรงจำสมัยชั้นประถมอยู่เรื่องหนึ่ง คือ เวลาที่ผมไปโรงเรียนผมจะเตรียมกล่องใบหนึ่ง ภายในกล่องจะมียาทาแผล สำลี พกใส่กระเป๋าไปโรงเรียนทุกวัน ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ทราบว่าทำไมถึงเตรียมชุดยาแบบนี้ไปโรงเรียนด้วย และครั้งหนึ่งมีเพื่อนคนหนึ่งหยิบกล่องยาใบนี้ออกมาจากกระเป๋าผม แล้วนำไปอวดเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน เพื่อน ๆ ในห้องล้อผม ด้วยความเป็นเด็ก ตอนนั้นผมอายมาก และวิ่งไปหยิบกล่องใบนั้นใส่กระเป๋า และเป็นจังหวะที่คุณครูเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี คุณครูจึงบอกเพื่อนทุกคนว่า “...ใครมีบาดแผลให้มาขอยาที่ผม...” แต่ถ้าถามผมว่า ผมอยากเรียนแพทย์ตอนไหน ก็น่าจะเป็นช่วงที่ผมเรียนชั้นมัธยมศึกษา หลังจากนั้นจึงสอบเข้าและศึกษาต่อที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาเมื่อ พ.ศ. 2506 จึงได้สอบเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (พญาไท) และผมเริ่มมีความต้องการที่จะเรียนแพทย์เมื่อเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (พญาไท) เรารับรู้ว่าสาขาแพทยศาสตร์มีคนแย่งเรียนกันเยอะ ผมเป็นคนตั้งใจเรียนตั้งแต่วัยเด็ก ผมจะแบ่งเวลาการเรียน และการอ่านหนังสือ ผมอ่านหนังสือทุกวัน ขณะเดียวกันก็แบ่งเวลาพักผ่อนด้วยโดยเฉพาะในวันเสาร์อาทิตย์ก็อาจไปดูภาพยนตร์ ด้วยความบังเอิญบ้านผมอยู่ใกล้กับวังบูรพาภิรมย์ บริเวณนั้นมีโรงภาพยนตร์อยู่ 3 โรง คือ โรงภาพยนตร์คิงส์ ควีนส์ และแกรนด์ เนื่องจากเราไม่ได้มีฐานะที่ดีนัก ผมก็จะไปดูชั้น 5 บาท ซึ่งถูกที่สุดในเวลานั้น สมัยนั้นมีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ผมประทับใจมากที่สุด นั่นก็คือเรื่อง “ทาร์ซาน” เนื้อหาของภาพยนตร์เกี่ยวกับสัตว์และป่า ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบธรรมชาติ คลุกคลีกับสัตว์ ส่งผลให้เรามีพื้นฐานของความมีเมตตาต่อสัตว์และเพื่อนมนุษย์ ผมจบจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (พญาไท) เมื่อ พ.ศ. 2508

เตรียมแพทย์ จุฬาฯ คณะวิทยาศาสตร์ ปีที่ 1 (พ.ศ.2509)

        ต่อมาผมสอบเข้าแผนกเตรียมแพทย์ คณะวิทยาศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียนอยู่ที่นั่น 2 ปี การเรียนและใช้ชีวิตอยู่ที่นี้ผมมีความสุขและสนุกมาก เพราะผมได้อยู่กับธรรมชาติ มีต้นจามจุรีที่สวยงาม ที่แห่งนี้ถูกกับนิสัยการชอบอยู่กับต้นไม้ของผมครับ การเรียนในตอนนั้นค่อนข้างเครียด เพราะเราต้องควบคุมตัวเอง และต้องอ่านหนังสือเป็นภาษาอังกฤษ ปรากฏว่าผมโชคดีครับ สอบผ่านทุกปี โดยไม่ต้องสอบซ่อม

ภาพถ่ายกับเพื่อน ๆ เตรียมแพทย์ กลุ่มที่ 3 (พ.ศ.2509)

        เมื่อตอนจะเรียนแพทยศาสตร์ ตอนนั้นต้องดูคะแนนการสอบว่าคนไหนจะสามารถไปเรียนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ ข้ามฟากไปเรียนที่ศิริราชได้ ทุกคนแย่งกันที่จะข้ามฟากไปเรียนที่ศิริราช ผมจำได้ว่า ตอนสอบสัมภาษณ์ อาจารย์ถามผมว่าทำไมถึงอยากเรียนแพทย์ ผมตอบกับอาจารย์ว่า “...ผมเห็นเพื่อนมนุษย์มีความทุกข์แล้ว จึงอยากช่วย และผมคิดว่าการเป็นแพทย์เราสามารถช่วยเพื่อนมนุษย์ได้มากที่สุด...” และตอนนั้นผมจำได้ว่า ผมบอกว่าบ้านผมอยู่ใกล้ศิริราช เพราะตอนหลังครอบครัวเราย้ายบ้านมาอยู่ที่ปากคลองตลาด ผมว่าเหตุผลนี้อาจจะมีส่วนทำให้ผมได้รับเลือกให้มาเรียนแพทยศาสตร์ที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้น 3 หอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 73170
โทร 0-2800-2680-9 ต่อ 4346