พิพิธภัณฑ์และนิทรรศการ
Museums & Exhibitions
นิทรรศการวันพระราชทานนามมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง ถ้อยคำพระราชาสู่ปัญญาของแผ่นดิน
จัดนิทรรศการ วันที่ ๒ เดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ณ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
บอร์ดนิทรรศการ
Please wait while flipbook is loading. For more related info, FAQs and issues please refer to dFlip 3D Flipbook Wordpress Help documentation.
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น แก่วงการการศึกษาไทย โดยทรงให้ความสำคัญแก่การพัฒนาบัณฑิตให้มีความรู้ความสามารถในหลากหลายสาขาวิชา เพื่อประโยชน์สุขและความก้าวหน้าของประเทศ อีกทั้งยังทรงเป็นองค์ประธานในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ หรือโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จแทนพระองค์ ตลอดรัชสมัย พร้อมทั้งพระราชทานพระบรมราโชวาท เป็นแนวทางปฏิบัติตนของบัณฑิต อาทิ
รูปที่ ๑ พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรและอนุปริญญามหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ พ.ศ. ๒๔๙๕ ณ หอประชุมราชแพทยาลัย
รูปที่ ๒ พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. ๒๕๔๑ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค มาพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกในรัชสมัย ในพิธีประสาทปริญญาและอนุปริญญา ณ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เมื่อวันจันทร์ที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ มีบัณฑิตผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จาก ๖ สาขาวิชา คือ สาขาแพทยศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ และวิชาพยาบาล-ผดุงครรภ์และอนามัย บัณฑิตแพทย์ คนแรกที่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของพระองค์ คือ ศาสตราจารย์ นายแพทย์เอื้อม ศิลาอ่อน แพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินมาในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปีการศึกษา ๒๕๔๐ เป็นครั้งสุดท้าย ในวันพฤหัสบดีที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในปีนี้ มีผู้สำเร็จการศึกษารวมทั้งสิ้น ๕,๒๖๔ คน จากหลากหลายสาขาวิชา ได้แก่ สาขา
แพทยศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ อักษรศาสตร์ และประชากรศาสตร์
พระราชดำรัสในงานทรงดนตรี
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระปรีชาสามารถในการทรงดนตรี เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรชาวไทยและชาวต่างชาติ ดังเห็นได้จากบทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่าและพระราชจริยวัตรอันงดงามทางด้านดนตรี โดยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนินมายังมหาวิทยาลัยมหิดลในการทรงดนตรีเป็นการส่วนพระองค์ พระราชทานแก่นักศึกษาครั้งแรกในวันเสาร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตน์ราชกัญญา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา ณ สวนอัมพร พระราชวังดุสิต โดยทรงมีพระราชดำรัส ตอนหนึ่งที่สำคัญ ความว่า
“...ที่กล่าวถึงผู้ที่เป็นเจ้าของชื่อมหิดลว่า คือสมเด็จพระบรมราชชนกนั้นก็เพราะท่านได้เป็นผู้ที่สนพระทัยและได้พยายามที่จะให้การศึกษาในด้านการแพทย์ก้าวหน้าทุกวิถีทาง จนกระทั่งได้รับพระนามว่าเป็นพระบิดาแห่งการแพทย์ในเมืองไทย มหาวิทยาลัยมหิดล และโดยเฉพาะผู้ที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยนี้ ก็ถือว่าต่างเป็นลูกของท่าน ก็นับว่าเรามีสิ่งที่ใกล้เคียงกันเพราะว่าเราเป็นลูกของท่านเหมือนกัน และนับได้ด้วยว่ามีพี่น้องจำนวนมากน่าชื่นใจ คนที่เป็นพี่น้องควรจะช่วยกันเสมอ มีความสามัคคีกันเพื่อที่จะให้วงศ์ตระกูลชื่อเสียงของตนดี สร้างสรรค์ให้ทำประโยชน์ให้ส่วนรวมมีความเจริญก้าวหน้า...”
ภายหลังงานดังกล่าว ได้เสด็จฯ มาทรงดนตรี อีก ๓ ครั้ง ณ หอประชุมราชแพทยาลัย โรงพยาบาลศิริราช ดังนี้
วันเสาร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๔
เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์
วันเสาร์ที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๕
เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์
วันเสาร์ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๖
เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์
พระราชดำรัสในโอกาสต่างๆ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนินมายังมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ต่อเนื่องมาในสมัยมหาวิทยาลัยมหิดลในโอกาสต่างๆ พร้อมทั้งพระราชทานพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสอันทรงคุณค่า แก่คณะผู้ร่วมงาน อาทิ “...การที่ทางราชการพยายามขยายงานด้านการแพทย์ โดยเฉพาะพยายามเพิ่มจำนวนแพทย์และพยาบาล ให้เพียงพอกับความจำเป็น และความต้องการของประชาชนส่วนรวมทั้งประเทศนั้น เป็นการสมควรอย่างยิ่ง งานนี้เป็นงานใหญ่ที่ทำได้ด้วยยาก แต่ก็สำคัญ จำเป็นต้องรีบกระทำให้ดีที่สุด ขอให้ผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาของแพทย์และพยาบาล ให้การศึกษาที่สมบูรณ์แก่แพทย์ และพยาบาล ให้ทุกคนมีความรู้อันแน่นแฟ้น ทั้งให้เป็นที่เชื่อถือได้ด้วยว่าทุกคนรู้จักหน้าที่ของตนๆ อย่างครบถ้วน เพราะผู้ที่มีความรู้ดีแต่ไม่รู้จักรักษาหน้าที่นั้นจะทำงานให้บังเกิดประโยชน์แท้จริงมิได้เลย...”
พระราชดำรัสในพิธีเปิดอาคารคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีวันเสาร์ที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๒
“...ข้าพเจ้าขอขอบใจท่านทั้งหลายที่มีใจอันดีและเป็นกุศล กับขอให้ท่านทั้งหลายได้สำนึกว่า ความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันนั้น ย่อมได้ประสบความสำเร็จสมความตั้งใจเสมอ การประกอบกรรมดีย่อมบังเกิดผลแห่งคุณงามความดีอันน่าสรรเสริญ...”
พระราชดำรัสในพิธีเปิด “ตึก ๗๒ ปี” และ ตึก “โกศล กันตะบุตร”
ณ โรงพยาบาลศิริราช
วันอังคารที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๔
“...ทุกคนจะเป็นแพทย์หรือเป็นพยาบาลหรือมีอาชีพอื่น มีหน้าที่ทั้งนั้น และหน้าที่ในทางการรักษาและดูแลความเป็นสุขของผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งสำคัญทั้งเป็นไม่ใช่หน้าที่จะมานั่งรับราชการหรือเดินรับราชการเช่นเดิม หากแต่เป็นหน้าที่ในทางศีลธรรมไปแล้ว ฉะนั้น การที่แต่ละคนได้ทำหน้าที่ในด้านสาธารณสุข ในด้านการแพทย์และพยาบาล ก็นับว่าเป็นการสร้างกรรมที่ดี นับว่าเป็นการสร้างตัวเองให้เป็นคนที่ดี มีอนาคต มีความเจริญมีความสุขในใจได้ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานนี้จึงเป็นผู้ที่มีโอกาสได้สร้างความดีก็ขออย่าละเลยความดีที่จะสร้างได้...”
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะผู้แทนจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันศุกร์ที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๔
รวมพระบรมราโชวาท
ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระราชทานแก่ชาวมหิดล
พระราชดำรัสสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
“...ขอขอบใจทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจช่วยงานพระบรมศพอย่างพร้อมเพรียง ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าคนไทยนั้นมีจิตใจดี มีความกตัญญูกตเวที มีความเอื้ออารีต่อกัน มีความรักชาติรักแผ่นดินเป็นคุณสมบัติประจำชาติ และมีความรู้ความสามารถไม่แพ้ชนชาติอื่นใด ดังนั้นไม่ว่าจะมีอุปสรรคปัญหาหรือเหตุไม่ปกติใดๆ เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา ก็เชื่อได้ว่าถ้าเราจะร่วมกันคิดอ่าน และช่วยกันปฏิบัติแก้ไข ทุกสิ่งทุกอย่างจะสามารถคลี่คลายลุล่วงไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน
ในปีใหม่นี้ ขอให้ชาวไทยทุกคนตั้งใจให้แน่วแน่ ที่จะรักษาคุณสมบัตินี้ให้เหนียวแน่น และทำความคิดจิตใจให้แจ่มใส ด้วยปัญญาที่กระจ่างพิจารณาทุกสิ่งที่เกิดมีขึ้นตามความเป็นจริง โดยปราศจากอคติ ให้มีความมุ่งมั่นมีกำลังใจในอันที่จะร่วมกันปฏิบัติสรรพกิจน้อยใหญ่ ในภาระหน้าที่ตามแนวพระบรมราโชบาย ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ได้พระราชทานไว้ให้งานทุกอย่างสำเร็จผล เป็นความดีความเจริญทั้งแก่ตนเอง แก่ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
ในการนี้ ข้าพเจ้าขอปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับประชาชนชาวไทยโดยเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานเช่นกัน...”
พระราชดำรัสเนื่องในศุภวาระขึ้นปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตวันศุกร์ที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
“...ขอพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงคุ้มครอง ได้ทรงชี้แนะ และปกปักรักษาพวกท่าน เพราะว่าตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ได้ทรงปฏิบัติมามาก และหลายอย่างได้พระราชทานพระราชดำริ และพระราชทานแนวทางไว้ก็ขอฝากให้ท่านได้ศึกษาพระราชดำริ ศึกษาวิเคราะห์ พระราชปณิธานและศึกษาพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทรงปฏิบัติมา อันนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้เป็นสิริมงคลและเป็นยิ่งกับพระที่คุ้มครองพวกเรา การปฏิบัติตามหรือการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ หรือระลึกถึงพระราชดำริหรือพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนี้จะเป็นพระ เป็นแสงสว่าง ที่คุ้มครองหรือแนะนำพวกเราต่อไป สุดท้ายก็ขอแสดงความปรารถนาดีด้วยตัวของข้าพเจ้าเอง และขอให้ทุกคนได้มีสติปัญญา มีกำลังใจ มีความสุขในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป...”
พระราชดำรัสพระราชทานแก่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
วันจันทร์ที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
พระราชประวัติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
พระราชประวัติ
ในวันมหิดล ๒๔ กันยายน ของทุกปี เพื่อการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงกตัญญูกตเวที ต่อสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย ผู้ซึ่งเป็นดั่งพระประทีปแก้วของการพัฒนาสังคมไทยให้ก้าวหน้าอย่างตะวันตก คำสอนของพระองค์ที่ว่า “...ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เปนกิจที่หนึ่ง...” นั้น มหาวิทยาลัยมหิดลกำหนดอัตลักษณ์หรือวัฒนธรรมองค์กร ของมหาวิทยาลัยมหิดลด้านหนึ่ง คือ “การมุ่งผลเพื่อผู้อื่น (Altruism)” นอกจากนี้มหาวิทยาลัยมหิดล มีนโยบายขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาชุมชนโดยจัดตั้ง “กลุ่มภารกิจวิจัยและพัฒนาชุมชนของมหาวิทยาลัยมหิดล” เพื่อสนับสนุนให้นักวิชาการจากทุกหน่วยงานของมหาวิทยาลัยได้ใช้ความรู้ ความสามารถพัฒนาสังคม ร่วมกับชุมชน และมหาวิทยาลัยมหิดลได้เริ่มการขับเคลื่อนงานพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยมหิดลกับสังคม (Mahidol Engagement) เพื่อการเชื่อมโยงภารกิจหลักทุกภารกิจของมหาวิทยาลัย เข้าด้วยกันอย่างมี ยุทธศาสตร์และเป็นระบบ และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือของทุกส่วนงานในมหาวิทยาลัยและระหว่าง มหาวิทยาลัยมหิดลกับชุมชนและหน่วยงานภายนอก เพื่อสนับสนุนงานวิจัยชุมชน ดังปณิธาน “ปัญญาของแผ่นดิน” ส่วนงานต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยมหิดลจึงรับเป็นภาระหน้าที่หนึ่งในการยังวิชาการหลักของส่วนงานนั้น ๆ ประยุกต์พัฒนาก่อเกิดโครงการต่าง ๆ ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนแก่สังคมร่วมกับชุมชนโครงการต่าง ๆ ที่มีต่อชุมชนของส่วนงานที่ตั้ง ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ในรอบปีงบประมาณ ที่แล้วมา มีดังต่อไปนี้
พระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพ ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ทรงมีพระเชษฐภคินี คือ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี และพระขนิษฐภคินีสองพระองค์คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงประกอบพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ในวันที่ ๑๔ และ วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๕
เมื่อทรงพระชนมายุได้ ๑ พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระราชทานพระนาม ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นผู้ตั้งถวายตามดวงพระชะตา ว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรงสุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดชภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณสวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร”
กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๙ ทรงเข้าศึกษาชั้นอนุบาลปีที่ ๑ ณ โรงเรียนจิตรลดาชั้นอนุบาล ณ พระที่นั่งอุดร ในพระราชวังดุสิต
มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๙ ทรงเข้าศึกษาระดับประถมศึกษาที่ โรงเรียนคิงสมีด (King's Mead School) เมืองซีฟอร์ด แคว้นซัสเซกส์ ประเทศอังกฤษ
กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๙ ทรงศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมิลล์ฟิลด์ (Millfield School) เมืองสตรีท แคว้นซอมเมอร์เซท ประเทศอังกฤษ
สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ - พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ทรงเข้ารับการศึกษาระดับเตรียมทหารที่โรงเรียนคิงส์ (The King's School) เขตพารามัตตา นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
พ.ศ. ๒๕๑๕ ทรงเข้าศึกษาในวิทยาลัยการทหารชั้นสูงที่วิทยาลัยการทหาร ดันทรูน (Royal Military College, Duntroon) กรุงเคนเบอร์รา และทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาอักษรศาสตรบัณฑิต (การศึกษาด้านการทหาร) คณะการศึกษาด้านการทหาร มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลล์ เมื่อพ.ศ. ๒๕๑๙
พ.ศ. ๒๕๒๐ - ๒๕๒๑ ทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรประจำชุดที่ ๕๖
พ.ศ. ๒๕๒๗ - ๒๕๓๐ ทรงศึกษาด้านกฏหมาย และทรงได้รับปริญญานิติศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
พ.ศ. ๒๕๓๓ ทรงเข้ารับการศึกษา ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร แห่งสหราชอาณาจักร Defence Academy of the United Kingdom)
นอกจากนี้พระองค์ท่านทรงรับการฝึกอบรมหลักสูตรทางการทหารและการบิน
พระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย
วันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณให้ดำรงพระอิสริยยศ “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร” ปรากฏพระนามตามจารึกพระสุพรรณบัฏว่า "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรสิริกิติยสมบูรณสวางควัฒน์ วรขัตติยราชสันตติวงศ์มหิตลพงศอดุลยเดชจักรีนเรศยุพราชวิสุทธสยามมกุฎราชกุมาร"
พระราชพิธีทรงผนวช
วันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณให้ดำรงพระอิสริยยศ “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร” ปรากฏพระนามตามจารึกพระสุพรรณบัฏว่า "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรสิริกิติยสมบูรณสวางควัฒน์ วรขัตติยราชสันตติวงศ์มหิตลพงศอดุลยเดชจักรีนเรศยุพราชวิสุทธสยามมกุฎราชกุมาร"
กราบบังคมทูลเชิญเป็นพระมหากษัตริย์ สืบราชสันตติวงศ์
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงผนวช เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๑ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จ
พระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก (วาสน์ วาสโน) เป็นพระราชอุปธยาจารย์ทรงได้รับการถวายพระสมณนามว่า “วชิราลงกรโณ”
ประทับจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา ๑๕ วัน
พระราชประวัติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๘ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มาในงานพิธี “วันมหิดล” ณ โรงพยาบาลศิริราช ทรงวางพวงมาลา และถวายบังคมพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
จากนั้นประทานเข็มสมนาคุณแก่ผู้มีอุปการะคุณกิตติมศักดิ์ และรางวัลแก่นักศึกษาแพทย์ผู้ชนะการประกวดเรียงความเนื่องใน “วันมหิดล” โดยได้เสร็จพระราชดำเนินมาในพิธีวางพวงมาลา ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน (ในภาพคือ พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยเสด็จฯ ครั้งแรกปี พ.ศ. ๒๕๐๘, ๒๕๒๑-๒๕๒๕, ๒๕๒๗-๒๕๒๘, ๒๕๓๑, ๒๕๓๔-๒๕๓๗ และพ.ศ. ๒๕๓๙ ถึงปัจจุบัน)
๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๑ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ มาทรงประกอบพิธีเปิดตึก “พระยาและคุณหญิง หริศจันทร์ สุวิท” และตึก“ยากัตตราม วิตตา วันดี ปาวา”
๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปทรงดนตรี ณ สวนอัมพร ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดา
๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ฯ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิตติคุณ มาในงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร ในโอกาสนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์
เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (อินทรียเคมี) ด้วย
๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๘ สมเด็จพระบรมโอรสธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเปิดศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการสาธารณสุขมูลฐานอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล
๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ สมเด็จพระบรมโอรสธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์กลุ่มอาคารอำนวยการ (อาคาร ๑) อาคารเรียนและปฏิบัติการรวม (อาคาร ๒) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ “อาคารศูนย์โรคหัวใจสมเด็จพระบรมราชินีนาถ” ณ โรงพยาบาลศิริราช
๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๘ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาในพิธีเปิดตึกหอพักนักศึกษาแพทย์ชาย “มหิตลาคารสมเด็จพระราชปิตุจฉา” ณ โรงพยาบาลศิริราช
๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๑ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ทรงวางศิลาฤกษ์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ณ ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ปีการศึกษา ๒๕๒๓
คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาสังคมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ปีการศึกษา ๒๕๔๓
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ปีการศึกษา ๒๕๕๔
คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาสาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารสาธารณสุขแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
บรรณานุกรม
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม. (๒๕๕๘). จดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร.
นครปฐม : กรม. (เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕).
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ. (๒๕๕๐). ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช ๒๔๙๓-๒๕๔๘.
พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพฯ : บริษัทเกรย์ แมทเทอร์ จำกัด.
กัลยา แสงเรือง และคนอื่นๆ. (๒๕๔๕). ๕๐ พรรษา มหาวชิราลงกรณ. พระนครศรีอยุธยา : สถาบันราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
มหาวิทยาลัยมหิดล. พิธีพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยมหิดล. (ตั้งแต่เล่มปีการศึกษา ๒๕๒๓-๒๕๕๔).
มหาวิทยาลัยมหิดล. (๒๕๔๑). หนังสือที่ระลึกสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงวางศิลาฤกษ์
มหาวิทยาลัยมหิดล ณ กาญจนบุรี. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยมหิดล. (พิมพ์เนื่องในวโรกาสที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงวางศิลาฤกษ์ มหาวิทยาลัยมหิดล ณ กาญจนบุรี ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
วันเสาร์ที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๔๑)
สถาบันพระปกเกล้าและสถาบันราชภัฏธนบุรี. (๒๕๔๕). หนังสือที่ระลึกเนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร ครบ ๕๐ พรรษา. กรุงเทพฯ : จัดพิมพ์เผยแพร่โดยสถาบันพระปกเกล้าและสถาบันราชภัฏธนบุรี
สุขใจ พนิชศักดิ์พัฒนา และคนอื่นๆ. (๒๕๔๕). ๔๐ พรรษา มหาวชิราลงกรณ. พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพฯ : มูลนิธิกาญจนบารมี.
สำนักราชเลขาธิการ. (๒๕๑๒) พระราชกรณียกิจระหว่างเดือน ตุลาคม ๒๕๑๑ – กันยายน ๒๕๑๒. กรุงเทพฯ.
สำนักราชเลขาธิการ. (๒๕๑๔) พระราชกรณียกิจระหว่างเดือน ตุลาคม ๒๕๑๓ – กันยายน ๒๕๑๔. กรุงเทพฯ.
หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล. (๒๕๕๔). ความทรงจำแห่งมหาวิทยาลัยมหิดล. พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพฯ : บริษัท แปลน พริ้นท์ติ้ง จำกัด.
อนันต์พัฒน์ อิ่มพูลทรัพย์ และสุรางค์ วิเศษมณี. (๒๕๓๙). ๕๐ ปี ในหลวงกับศิริราช. กรุงเทพฯ : ทรี-ดี สแกน.
ขอบคุณภาพและข้อมูล
- สำนักราชเลขาธิการ
- หอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ศิริราช
- สถานเทคโนโลยีการศึกษาแพทยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
- กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี
- ดร.สัณห์ พันธ์อุไร หัวหน้าแผนกกองบำรุงรักษาทาง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
- ผศ.ดร.วรรณสิริ พันธ์อุไร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- นายแดง ลมสูงเนิน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
QUICK LINKS
ติดต่องานบริหารจดหมายเหตุ
ติดต่องานพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการ
*** สถานที่ติดต่อเข้าชมนิทรรศการหอพระราชประวัติสมเด็จพระบรมราชชนก และหอเกียรติยศแห่งมหาวิทยาลัยมหิดล
© 2021 ฝ่ายจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล. All Rights Reserved.