พิพิธภัณฑ์และนิทรรศการ
Museums & Exhibitions
นิทรรศการวันมหิดล เรื่อง “ใต้ร่มพระบารมี สู่ผืนดินศาลายา ปลูกปัญญาของแผ่นดิน”
จัดนิทรรศการ วันที่ 24 เดือนกันยายน พ.ศ. 2559 ณ ห้องนิทรรศการชั้น 1 (Art Gallery) ศูนย์การเรียนรู้มหิดล
บอร์ดนิทรรศการ
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ พสกนิกรชาวไทยนานัปการ โดยเฉพาะทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทรงสร้างรากฐานที่มั่นคง และพัฒนาไปสู่ความทันสมัย เพื่อประโยชน์สุขแห่งมวลมนุษยชาติ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ คณะกรรมการคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีมติ กำหนดให้วันที่ ๒๔ กันยายน ของทุกปี เป็นวันระลึกถึงสมเด็จพระบรมราชชนกโดยขนานนามว่า “วันมหิดล”
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมราชชนก มหาวิทยาลัยมหิดลและ หน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติอย่างต่อเนื่อง เพื่อเผยแพร่ พระเกียรติคุณให้ประจักษ์สืบต่อไป เนื่องใน “วันมหิดล” ๒๔ กันยายน ๒๕๕๙ ฝ่ายจดหมายเหตุ และพิพิธภัณฑ์ หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดทำนิทรรศการภายใต้ชื่อ “ใต้ร่มพระบารมี สู่ผืนดินศาลายา ปลูกปัญญาของแผ่นดิน” เพื่อรวบรวมเรื่องราวการขยายพื้นที่ มหาวิทยาลัยมหิดลมาสู่พื้นที่ศาลายา จากเมื่อครั้งแรกสร้าง จนกระทั่งการเปิดมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา อย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๖ สะท้อนความเปลี่ยนแปลงผ่านโครงสร้างทางกายภาพ และสภาพโดยรอบมหาวิทยาลัย และนำเสนอการเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและช่วยเหลือชุมชน โดยรอบมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ในปัจจุบัน
การพัฒนามหาวิทยาลัยมหิดล ให้เป็นมหาวิทยาลัยที่สมบูรณ์ ดั่งพระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวิทยาลัยมหิดลในปัจจุบันนอกจากจะพัฒนาในด้านการเรียน การสอน การวิจัย การสาธารณสุข และการแพทย์ การนำวิชาความรู้มาช่วยพัฒนาสังคมนับเป็น สิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย ซึ่งถือเป็นชุมชนที่ใกล้ชิดและมีความสำคัญยิ่ง ต่อมหาวิทยาลัย ดังนั้นการมีส่วนร่วม และรับผิดชอบต่อชุมชน เพื่อให้มหาวิทยาลัย บุคลากร นักศึกษาเกิดสำนึกรัก หวงแหน และภาคภูมิใจในชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย และช่วยกันอนุรักษ์ พื้นที่แห่งนี้ต่อไป
มหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา : ปฐมบท และปัจจุบัน
มหาวิทยาลัยมหิดลพัฒนามาจากโรงศิริราชพยาบาล ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ. ๒๔๒๙) โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อบำบัดโรคภัยไข้เจ็บแก่ประชาราษฎร์ อาศัยพื้นที่บริเวณวังหลังเป็นสถานที่ตั้ง ของโรงพยาบาล ดำเนินการดูแลรักษาประชาราษฎร์เรื่อยมา จนกระทั่งใน พ.ศ. ๒๔๓๒ โรงศิริราชพยาบาล กลายมาเป็น โรงเรียนแพทยากร เพื่อผลิตแพทย์ที่มีความรู้ ความสามารถในการรักษาผู้ป่วย ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๔๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามใหม่แก่โรงเรียนแพทยากร ว่าโรงเรียนราชแพทยาลัย การผลิตแพทย์ยังคงเป็นเป้าหมายหลัก และมีการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน ให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา จนต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๘๖ จึงมีการสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ซึ่งมีการพัฒนา และดำเนินกิจการเรื่อยมาจนได้รับพระราชทานนามว่า “มหาวิทยาลัยมหิดล” เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒
“…มหาวิทยาลัยมหิดล มีนโยบายที่จะดำเนินการพัฒนางานต่าง ๆ อันเป็นภารกิจ ของมหาวิทยาลัยซึ่งได้แก่ การผลิตบุคลากรที่จะไปประกอบวิชาชีพในสาขาต่าง ๆ การให้บริการทางวิชาการและสุขภาพต่อสังคม การวิจัยและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะช่วยสรรสร้างสังคมไทยให้ เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป…”
พ.ศ. ๒๕๑๓ มหาวิทยาลัยมหิดลได้ขยายพื้นที่การศึกษา โดยขอซื้อที่ดินจากสำนักงานทรัพย์สินส่วน พระมหากษัตริย์ที่ตำบลศาลายา อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ติดกับทางรถไฟสายใต้ ตรงข้ามกับ สถานีรถไฟศาลายา เนื้อที่ ๑,๒๔๐ ไร่ ๓ งาน ๖๙ ตารางวา เพื่อรองรับนักศึกษาได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักศึกษา ชั้นปีที่ ๑ และ ๒ ของมหาวิทยาลัย และนักศึกษาชั้นปีดังกล่าวจะถูกกำหนดให้เรียนที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ส่งผลให้สถานที่เรียนเดิมจะมีพื้นที่ว่างมากพอสำหรับรองรับนักศึกษาปีที่ ๓ ปีที่ ๔ และนักศึกษาปริญญาโท เอก นอกจากนี้ยังปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอน รวมถึงการเพิ่มเติมสาขาที่จำเป็น โดยทางมหาวิทยาลัย มีเป้าหมายในการเปิดการเรียนการสอนวิชาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์แก่นักศึกษาชั้นปีที่ ๑ และ ๒ เพิ่มเติม จากวิชาพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ด้วย สำหรับในส่วนของการพัฒนาพื้นที่ศาลายา การวางแผน ก่อสร้างอาคารยึดถือเป้าหมายของการจัดการศึกษา และวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัยเป็นหลัก โดย การออกแบบอาคารจึงเป็นแบบที่มีระเบียบเดียวกัน และสามารถดัดแปลงได้เต็มที่เหมาะสมกับประโยชน์ของ การศึกษา ตัวอาคารที่สร้างไม่ใช่เพียงเพื่อรองรับนักศึกษาจำนวน ๓,๐๐๐ คน ในระยะแรกเท่านั้น แต่สามารถจุ นักศึกษาได้ถึง ๑๕,๐๐๐ คน หากมีจำนวนนักศึกษาเพิ่มขึ้นในระยะเวลาต่อไป
วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ศาสตราจารย์ ดร.สัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารอำนวยการ มหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา ภายหลังจากนั้นทางมหาวิทยาลัยได้สร้างอาคารอื่น ๆ ตามมา ประกอบด้วย อาคารเรียนวิทยาศาสตร์ อาคารเรียนสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ คณะสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรศาสตร์ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม สถาบันวิจัยโภชนาการ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรม- เพื่อพัฒนาชนบท ศูนย์สัตว์ทดลองแห่งชาติ อาคารพลศึกษา หอพักนักศึกษา หอพักอาจารย์ อาคารกิจกรรมกลางและโรงอาหาร อาคารหอสมุด สนามกีฬากลางแจ้ง และระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ต่อมามหาวิทยาลัยมหิดลศาลายาจึงเริ่มรับนักศึกษาชั้นปีที่ ๑ ประจำปีการศึกษา ๒๕๒๕ จำนวน ๑,๐๐๐ คน เข้าเรียนและพักอาศัย ภายในหอพักนักศึกษา นับเป็นนักศึกษารุ่นแรกที่ได้เข้ามาศึกษา ณ มหาวิทยาลัยมหิดลศาลายา กระทั่ง เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน มาทรงเปิดมหาวิทยาลัยมหิดลศาลายาอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันในมหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา ประกอบด้วยหน่วยงาน ๒๘ หน่วยงาน
(ข้อมูล ณ มีนาคม ๒๕๕๙)
“มหาวิทยาลัยมหิดล” ดำเนินกิจการมากว่า ๑๐๐ ปี มอบวิชาความรู้และให้บริการทางการแพทย์ต่อ สังคมมาตั้งแต่ยุคโรงศิริราชพยาบาล จนกระทั่งกลายมาเป็น มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นทั้งสถานศึกษาที่ผลิตบัณฑิต งานวิจัยต่าง ๆ และเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการแก่สังคม ซึ่งมหาวิทยาลัย พัฒนาและปรับปรุงสิ่งเหล่านี้อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้สมดั่ง พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีแก่คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ครั้งพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระนามาภิไธยของสมเด็จพระบรมชนกนาถให้เป็นนามของมหาวิทยาลัยเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ ความว่า “…ให้พัฒนามหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยที่สมบูรณ์ตามความหมาย และเพิ่มเติมขอบเขตของวิชาการให้กว้างขวางออกไปจากวิชาแพทยศาสตร์อีกด้วย…”
รูปที่ ๑ ศาสตราจารย์ ดร.สัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารอำนวยการ มหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๐
รูปที่ ๒ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดมหาวิทยาลัยมหิดลศาลายา อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๖
รูปที่ ๑ อาคารอำนวยการ,
รูปที่ ๒ อาคารวิทยาศาสตร์
รูปที่ ๓ อาคารบรรยายรวม
รูปที่ ๔ อาคารหอสมุ
รูปที่ ๕ อาคารเรียนสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์
เปิดมหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา วันเสาร์ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๒๖
รูปที่ ๑ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินถึงมหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา เมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น.
รูปที่ ๒ ศาสตราจารย์ ดร.สมภพ โหตระกิตย์ นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
รูปที่ ๑ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ ดร.ณัฐ ภมรประวัติ อธิบการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กราบบังคมทูลรายงานและขอพระราชทานเชิญเสด็จ ฯ ทรงประกอบพิธีเปิดมหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา
มหาวิทยาลัยมหิดลขยายพื้นที่มา ณ ศาลายา ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. ๒๕๑๙ มหาวิทยาลัยดำเนินการเรื่อยมา แม้จะพบปัญหาหลายประการระหว่างการดำเนินงาน แต่ด้วยความสำนึกในประวัติศาสตร์ ชื่อเสียงของ มหาวิทยาลัยที่มีมากว่า ๑๐๐ ปี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล้วนเป็นสิ่งที่ ทำให้ผู้รับผิดชอบในกิจการของมหาวิทยาลัยทุกระดับ และทุกสมัยพยายามเอาชนะอุปสรรคนานัปการ เพื่อให้ การก่อสร้างมหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา ดำเนินไปด้วยความถูกต้อง และเรียบร้อย
กระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๒๖ เวลา ๑๕.๐๐ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดมหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา นับเป็นสิริมงคลแก่ มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นอย่างยิ่งและในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงร่วม งานฉลองเปิดมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา และทรงดนตรี ณ อาคารพลศึกษา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ยังความปลื้มปิติโสมนัสอันหาที่สุดมิได้
รูปที่ ๑ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดผ้าแพรคลุมป้ายมหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา
รูปที่ ๒ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินร่วมงานฉลองเปิดมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ณ อาคารพลศึกษา โดยมีบุคลากรมหาวิทยาลัยมหิดลและประชาชน เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ
รูปที่ ๓ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินร่วมงานฉลองเปิดมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ณ อาคารพลศึกษา โดยมีบุคลากรมหาวิทยาลัยมหิดลและประชาชน เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ
รูปที่ ๔ นักศึกษา และประชาชนถวายการแสดง ต่อหน้าพระพักตร์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
รูปที่ ๕ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงดนตรีเพลง “เต่าเห่” (ทรงพระราชนิพนธ์บทร้อง พ.ศ. ๒๕๑๙)
รูปที่ ๖ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกต้น “แก้วเจ้าจอม” บริเวณด้านหน้าอาคารพลศึกษา
รูปที่ ๗ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกต้น “แก้วเจ้าจอม” บริเวณด้านหน้าอาคารพลศึกษา
ต้นไม้ทรงปลูก “แก้วเจ้าจอม” : วันเปิดมหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา
เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๒๖ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกต้น “แก้วเจ้าจอม” ในวันเปิดมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ณ บริเวณอาคารพลศึกษา ปัจจุบันคืออาคารอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เพื่อเป็นแบบอย่างในการให้ความสำคัญเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ ทรงตระหนัก ถึงคุณค่าของป่าไม้ และพระราชประสงค์จะให้คนสามารถอยู่กับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน และเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
“แก้วเจ้าจอม” เป็นพันธุ์ไม้ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ปัจจุบันต้นกำเนิดต้นแรกในประเทศไทย มีอายุมากกว่า ๑๐๐ ปี และมีอยู่ต้นเดียวในประเทศไทย เป็นต้นไม้หายาก ตามประวัติศาสตร์ระบุว่า ในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ทรงได้พันธุ์นี้มาจากชวา และนำมาปลูกไว้ใน วังสวนสุนันทา ปัจจุบันคือ “มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา” ต้นแก้วเจ้าจอมต้นนี้ มีลักษณะใบประกอบ ๒ คู่ ได้ถูกจัดลำดับเป็นพันธุ์พืชอนุรักษ์ในบัญชี ๒ ภายใต้พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. ๒๕๒๕ กรมส่งเสริม การเกษตร ศาสตราจารย์เต็ม สมิตินันทน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์ เป็นผู้ตั้งชื่อต้นไม้ชนิดนี้ว่า “แก้วเจ้าจอม” หรือ “น้ำอบฝรั่ง” และนอกจากนี้ยังมีชนิดใบประกอบ ๓ คู่ ซึ่งเป็นไม้พุ่มสวย มีลักษณะ ใบประกอบ ๓ คู่ปลูกไว้ ณ ฝ่ายปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ปัจจุบันต้นไม้ต้นนี้มีอายุ ๒๖ ปี
รูปที่ ๑ ต้นแก้วเจ้าจอม บริเวณอาคารอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Guaiacum officinale Linn
ชื่อวงศ์ : ZYGOPHYLLACEAE
ชื่อสามัญ : Lignum vitae
ชื่ออื่น : กณิการ์ , กรณิการ์
ถิ่นกำเนิด : ทวีปอเมริกาใต้และหมู่เกาะเวสต์อินดีส
ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้ต้น
ขนาด [Size] : สูง ๑๐-๑๕ เมตร
สีดอก [Flower Color] : สีฟ้าอมม่วงเปลี่ยนเป็นขาว
ฤดูที่ดอกบาน [Bloom Time] : ต.ค.-เม.ย.
อัตราการเจริญเติบโต [Growth Rate] : ช้า
ลักษณะนิสัย [Habitat] : ดินร่วน ระบายน้ำได้ดี
ความชื้น [Moisture] : ปานกลาง
แสง [Light] : แดดเต็มวัน-ปานกลาง
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ เรือนยอดทรงกลมค่อนข้างหนาทึบ
เปลือก : สีเทาเข้ม
รูปที่ ๑ ใบต้นแก้วเจ้าจอม
ใบ (Foliage) : ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงตรงข้าม มีทั้งชนิดที่มีใบย่อย ๒ คู่ หรือ ๓ คู่ ใบประกอบยาว ๑-๑.๕ ซม. ก้านใบประกอบยาว ๐.๕-๑ ซม. ใบย่อยไม่มีก้าน รูปรีถึงรูปไข่กลับ หรือรูปรีเบี้ยวเล็กน้อย มีขนาดไม่เท่ากัน ใบย่อยคู่ปลายกว้าง ๑.๘-๒ ซม. ยาว ๓.๒-๓.๕ ซม. ใบย่อยคู่ที่อยู่ตอนโคนกว้าง ๑.๒-๑.๕ ซม. ยาว ๒.๕-๒.๗ ซม. ปลายใบมน โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านล่างสีอ่อนกว่า มีจุดสีส้มที่ โคนใบย่อยด้านบน หูใบและใบประดับเล็ก ร่วงง่าย
รูปที่ ๒ ดอกต้นแก้วเจ้าจอม
ดอก (Flower) : ออกดอกเดี่ยวเป็นกระจุก ๓-๔ ดอกที่ปลายกิ่ง สีฟ้าอมม่วงและจางลงเมื่อใกล้โรย มีกลิ่นหอม ก้านดอกยาว ๑-๑.๕ ซม. กลีบเลี้ยง ๕ กลีบ รูปไข่ โคนเชื่อมติดกันเล็กน้อย มีขนประปราย ร่วงง่าย กลีบดอก ๕ กลีบ รูปรีหรือรูปไข่ กว้างประมาณ ๑ ซม. ยาวประมาณ ๒ ซม. เกสรสีเหลือง เกสรเพศผู้ ๑๐ อัน แยกกัน เกสรเพศเมียปลายแยกเป็น ๕ แฉก ชนิดมีใบย่อย ๒ คู่ ออกดอกง่ายและชนิดมีใบย่อย ๓ คู่ ออกดอกน้อยกว่า
รูปที่ ๓ ผลต้นแก้วเจ้าจอม
ผล (Fruit) : ผลสด ทรงกลมแป้นหรือรูปหัวใจกลับ มีครีบ ๒ ข้าง กว้างประมาณ ๑.๒ ซม. ยาวประมาณ ๑.๘ ซม. ก้านผลยาว ๑.๕-๓ ซม. เมื่อแก่สีเหลืองหรือส้ม แห้งแตก เมล็ดรูปรีสีน้ำตาล มี ๑-๒ เมล็ด
ประโยชน์
๑. พุ่มสวยเหมาะปลูกเป็นไม้ประดับสนามกว้าง ๆ ให้ร่มเงา
๒. เป็นเนื้อไม้ที่หนักที่สุดในโลก และแข็งมาก เป็นมัน คุณสมบัติเนื้อไม้มีลักษณะเป็นเส้นประสานกันแน่น และ หนักมาก ไม้ชนิดนี้จมน้ำ ทนต่อแรงอัด และน้ำเค็ม จึงนิยมนำใช้ทำกรอบประกับเพลาเรือเดินทะเล ทำสิ่ว และนำมากลึงทำของใช้ต่าง ๆ เช่น ทำลูกโบว์ลิ่ง ทำรอก เป็นต้น
๓. ใช้เป็นยาสมุนไพรจากทุกส่วนของลำต้น โดยเฉพาะยางจากเนื้อไม้ในธรรมชาติ มีสีน้ำตาลอมเขียว ประกอบด้วยสารเคมีหลายชนิดในปริมาณค่อนข้างสูง ซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษาโรค
สรรพคุณการใช้เป็นยาสมุนไพร
ใช้เป็นยาสมุนไพรกันอย่างกว้างขวาง รักษาโรครูมาติซัมเรื้อรัง โรคไขข้ออักเสบ ปวดประจำเดือน โรคหอบหืด โรคเบาหวาน โรคเกาต์ ใช้เป็นยาตรวจคราบเลือดในนิติเวชวิทยา เรียกว่า Gum Guaiacum แถบอเมริกาใต้ อินเดีย อินเดียตะวันตก และฟลอริิดา ฯลฯ นอกจากนี้มีการใช้ประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ เฉพาะส่วนดังนี้ ยางไม้ ใช้เป็นยาขับเสมหะ ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ แก้ข้ออักเสบ หรือทำเป็นยาอมแก้หลอดลมอักเสบ น้ำคั้นจากใบ กินแก้อาการท้องเฟ้อ เปลือก เป็นยาระบาย ผงชาจากดอก เป็นยาบำรุงกำลัง
แผนผังมหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา เมื่อแรกสร้าง
แผนผังมหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา ในปัจจุบัน (พ.ศ. ๒๕๕๙)
โครงการพันธกิจสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหิดลกับสังคม (ครั้งนี้แสดงเฉพาะข้อมูลของส่วนงานที่ตั้ง ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา)
ในวันมหิดล ๒๔ กันยายน ของทุกปี เพื่อการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงกตัญญูกตเวที ต่อสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย ผู้ซึ่งเป็นดั่งพระประทีปแก้วของการพัฒนาสังคมไทยให้ก้าวหน้าอย่างตะวันตก คำสอนของพระองค์ที่ว่า “…ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เปนกิจที่หนึ่ง…” นั้น มหาวิทยาลัยมหิดลกำหนดอัตลักษณ์หรือวัฒนธรรมองค์กร ของมหาวิทยาลัยมหิดลด้านหนึ่ง คือ “การมุ่งผลเพื่อผู้อื่น (Altruism)” นอกจากนี้มหาวิทยาลัยมหิดล มีนโยบายขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาชุมชนโดยจัดตั้ง “กลุ่มภารกิจวิจัยและพัฒนาชุมชนของมหาวิทยาลัยมหิดล” เพื่อสนับสนุนให้นักวิชาการจากทุกหน่วยงานของมหาวิทยาลัยได้ใช้ความรู้ ความสามารถพัฒนาสังคม ร่วมกับชุมชน และมหาวิทยาลัยมหิดลได้เริ่มการขับเคลื่อนงานพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยมหิดลกับสังคม (Mahidol Engagement) เพื่อการเชื่อมโยงภารกิจหลักทุกภารกิจของมหาวิทยาลัย เข้าด้วยกันอย่างมี ยุทธศาสตร์และเป็นระบบ และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือของทุกส่วนงานในมหาวิทยาลัยและระหว่าง มหาวิทยาลัยมหิดลกับชุมชนและหน่วยงานภายนอก เพื่อสนับสนุนงานวิจัยชุมชน ดังปณิธาน “ปัญญาของแผ่นดิน” ส่วนงานต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยมหิดลจึงรับเป็นภาระหน้าที่หนึ่งในการยังวิชาการหลักของส่วนงานนั้น ๆ ประยุกต์พัฒนาก่อเกิดโครงการต่าง ๆ ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนแก่สังคมร่วมกับชุมชนโครงการต่าง ๆ ที่มีต่อชุมชนของส่วนงานที่ตั้ง ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ในรอบปีงบประมาณ ที่แล้วมา มีดังต่อไปนี้
๑. กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม
๑. โครงการ Eco Town มหิดลกับชุมชน กิจกรรมส่งเสริมการจัดตั้งโครงการธนาคารขยะรีไซเคิล ณ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ มหามงคล จังหวัดนครปฐม ๒๕๕๙
๒. กองกิจการนักศึกษา
๑. โครงการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยพลังนิสิตนักศึกษา (รากแก้ว มหาวิทยาลัยมหิดล) ในพื้นที่ชุมชนของ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๒๕๕๙
๓. คณะกายภาพบำบัด
๑. กิจกรรมบริหารร่างกายเพื่อป้องกันข้อเสื่อม ณ สวนลุมพินี ๒๕๕๗
๒. โครงการคลีนิกกายภาพบำบัดสัญจรในชุมชน ตำบลศาลายา, ตำบลคลองโยง, ตำบลคลองมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
๔. คณะเทคนิคการแพทย์
๑.โครงการร่วมงานมหกรรมสุขภาพ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมหาสวัสดิ์ ๒๕๕๙
๕. คณะวิศวกรรมศาสตร์
๑. โครงการ “วันแม่แห่งชาติ เสริมสร้างคลังปัญญา ด้วย SEP-STEM ปี ๒๕๕๙” ณ โรงเรียนบ้านคลองสว่างอารมณ์ ตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
๖. คณะศิลปศาสตร์
๑. โครงการเล่าขานตำนานศาลายา ครั้งที่ ๑๐ ตอน “ในน้ำมีปลา ศาลายามีข้าว” ๒๕๕๙
๒. โครงการสร้างเสริมศักยภาพบุคลากร ด้านชุมชนสัมพันธ์ ตอน ล่องเรือมหาสวัสดิ์ ๒๕๕๙
๓. หนังสือที่ทำเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ชุมชน
๗. คณะสัตวแพทยศาสตร์
๑. โครงการกันภัยโรคพิษสุนัขบ้า ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘-๒๕๕๙ ณ เขตพื้นที่ทวีวัฒนา พื้นที่ชุมชนโดยรอบ วิทยาเขตศาลายา ในส่วนของ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
๘. คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์
๑. โครงการสิ่งแวดล้อมอาสา ช่วยชุมชนศาลายากำจัดขยะ
๒. โครงการ วันเด็กแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๙ ณ โรงเรียนบ้านคลองมหาสวัสดิ์ (ตั้งตรงจิตร ๑๗) ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
๓. กิจกรรมตรวจสอบคุณภาพน้ำเบื้องต้น บริเวณพื้นที่ ตำบลงิ้วราย ตำบลมหาสวัสดิ์ ตำบลคลองโยง วัดสุวรรณาราม วัดสาลวัน และวัดปุรณาวาส
๔. ลงพื้นที่ตรวจวัดพารามิเตอร์ด้านสิ่งแวดล้อม เบื้องต้นและเก็บตัวอย่างน้ำมาทำการวิเคราะห์คุณภาพน้ำ จากเหตุมีรถบรรทุกน้ำมันคว่ำ บริเวณพุทธมณฑล สาย ๖
๙. วิทยาลัยนานาชาติ
๑. โครงการกิจกรรมพันธกิจสัมพันธ์กับสังคม เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมอาสาสมัครและ พัฒนคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคม โดยมีกิจกรรมดังนี้
โครงการปลูกต้นไม้และเพิ่มพื้นที่สีเขียว ณ อุทยานพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม จำนวน ๕ ครั้ง : ปี ๒๕๕๘ จำนวน ๓ ครั้ง และ ปี ๒๕๕๙ จำนวน ๒ ครั้ง
โครงการอบรมภาษาอังกฤษให้แก่เยาวชนในพื้นที่ตำบลศาลายา จังหวัดนครปฐม (English for Fun Shalala) ๒๕๕๘
โครงการยุวชนพุทธมณฑลรักการอ่าน อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๒๕๕๘
โครงการ บ้าน-ชุมชน วัด โรงเรียน สานสัมพันธ์ เพื่อชุมชนอุดมปัญญา
๑. โรงเรียนวัดไทยาวาส อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ๒๕๕๘
๒. โรงเรียนวัดมะเกลือ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๒๕๕๙
๓. โรงเรียนบ้านคลองโยง Shalala English Camp อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๒๕๕๙
โครงการ MUIC Sha La La Charity ณ สถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญา จังหวัดราชบุรี ๒๕๕๙
โครงการค่ายอาสา เข้าใจ เข้าถึง พัฒนาชุมชน ณ วัดสุวรรณาราม ตำบลศาลายา จังหวัดนครปฐม ๒๕๕๙
๑๐. วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา
๑. บริการวิชาการ ครบรอบ ๓๐ ปี วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา โรงเรียนบุญยศรีสวัสดิ์ ตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๒๕๕๘
๒. บริการทดสอบสมรรถภาพทางกายแก่ชุมชน ในมหกรรมสุขภาพดี วิถีคนมหาสวัสดิ์ ๒๕๕๘
๓. บริการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ณ โรงเรียนมัธยมวัดดุสิตารามถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ๒๕๕๘
๔. บริการวิชาการ ครบรอบ ๓๐ ปี วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา ณ โรงเรียนบ้านคลองโยง ๒๕๕๘
๕. บริการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ในงาน “มหิดล-วันแม่” ประจำปี ๒๕๕๘ ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
๑๑. หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล
๑. โครงการรักการอ่าน ส่งเสริมการเรียนรู้ สู่ชุมชนศาลายา ประจำปี ๒๕๕๘ จัดกิจกรรม “เล่านิทาน อ่านสนุก” โรงเรียนบ้านคลองพระมอพิสัย ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม และโรงเรียนบ้านคลองนกกระทุง ตำบลคลองนกกระทุง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
บรรณานุกรม
มหาวิทยาลัยมหิดล. (๒๕๓๗). ๒๕ ปี แห่งวันพระราชทานนามมหาวิทยาลัยมหิดล. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยมหิดล.
มหาวิทยาลัยมหิดล. กองแผนงาน. งานวิจัยสถาบันและสารสนเทศ. (๒๕๓๔). มหาวิทยาลัยมหิดล…ศาลายา. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยมหิดล.
ลินดา วงศานุพันธ์. (๒๕๒๖). รายงานการก่อสร้าง มหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศาลายา ระยะที่ ๑ พ.ศ ๒๕๑๘-๒๕๒๕. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยมหิดล.
ลินดา วงศานุพันธ์ (๒๕๒๘). รายงานความก้าวหน้าการก่อสร้างศาลายา ภายหลังระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๒๖-๒๕๒๗). นครปฐม : มหาวิทยาลัยมหิดล.
วิกัลย์ พงศ์พนิตานนท์. (บรรณาธิการ). (๒๕๕๒). เทิดพระนาม มหิดล. นครปฐม : มหาวิทยาลัยมหิดล.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (๒๕๑๕). แผนพัฒนาการศึกษา ฉบับที่ ๓ (๒๕๑๕-๒๕๑๙). กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล. (๒๕๒๖, ๗ มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๐๐ ตอนที่ ๓. หน้า ๖.
กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
หนังสือ
นาฏสุดา ภูมิจำนงค์. (บรรณาธิการ). (๒๕๕๓). ไม้ยืนต้น. นครปฐม : กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล.
มานะ โพธิ์ทอง และคณะ. (๒๕๕๔). ต้นไม้ทรงปลูก. นนทบุรี : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย.
สารสนเทศที่สืบค้นจากเว็บไซต์
แก้วเจ้าจอม. (๒๕๕๙). [ออนไลน์]. แหล่งที่มา : http://www.wikiwand.com/th/แก้วเจ้าจอม. (วันที่สืบค้น ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๙).
บุญรอด ศรีบุญเรือง และคณะ. (๒๕๕๙). แก้วเจ้าจอมไม้พุ่มสวยและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ Lignum Vitae is the beautiful burh and Historical novelty. [ออนไลน์].
แหล่งที่มา : http://www.rdi.ku.ac.th/kufair50/plant/09_plant/09_plant.html#author. (วันที่สืบค้น ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๙).
ราชบัณฑิตสถาน. อนุกรมวิธานพืชอักษร ก.. (๒๕๕๙). แก้วเจ้าจอม. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา : http://www.rspg.org/palace/chitralada/cld6-2_112.htm. (วันที่สืบค้น ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๙).
mamnaka11. (๒๐๑๒). ไม้ดอก : แก้วเจ้าจอม. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา : http://panmainaiban.blogspot.com/2012/11/blog-post.html. (วันที่สืบค้น ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๙).
Royal Archives of OHM. (๒๐๑๓). หนังสือ “ต้นไม้ทรงปลูก”. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา : https://www.facebook.com/RoyalArchivesofOHM/photos/?tab=album&album_id=533524673390682. (วันที่สืบค้น ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๙).
ช่างภาพ
นายธนกฤต ทองบริสุทธิ์ นักศึกษาคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยมหิดล (MU GUIDE รุ่นที่ ๕)
QUICK LINKS
ติดต่องานบริหารจดหมายเหตุ
ติดต่องานพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการ
*** สถานที่ติดต่อเข้าชมนิทรรศการหอพระราชประวัติสมเด็จพระบรมราชชนก และหอเกียรติยศแห่งมหาวิทยาลัยมหิดล
© 2021 ฝ่ายจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล. All Rights Reserved.