
หอประชุมราชแพทยาลัย

หอประชุมราชแพทยาลัย สร้างขึ้นบนที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้รับเวนคืนมาภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเงินบริจาคของศิษย์เก่าศิริราชและประชาชนทั่วไป เงินจากการจัดงานเฉลิมฉลอง 60 ปี ศิริราช และเงินจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สำหรับชื่อ หอประชุมราชแพทยาลัย ตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงโรงเรียนราชแพทยาลัยให้มีชื่อปรากฎในประวัติศาสตร์สืบไป ออกแบบอาคารโดย ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้าโวฒยากร วรวรรณ ใช้รูปแบบอาคารเป็นศิลปะประยุกต์ ผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยประเพณีกับอาคารร่วมสมัย ตกแต่งอย่างเรียบง่าย ใช้ปั้นลมและหน้าบันธรรมดา แต่ยังคงรูปแบบหลังคาจั่วมุมสูงไว้ หน้าจั่วประกอบด้วยองค์ประกอบสถาปัตยกรรมไทย เช่น อกไก่ แป แปหัวเสา ตัวเหงารูปหัวพญานาค และมีคันทวยเป็นไม้ค้ำชายคา ชั้นล่างของหอประชุมราชแพทยาลัยเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ พื้นราบไม่มีอัฒจันทร์ หอประชุมมีความจุประมาณ 1,200 คน ใช้เป็นอาคารอเนกประสงค์สำหรับจัดกิจกรรมสำคัญต่าง ๆ เช่น ประชุมสัมมนา จัดเลี้ยงสังสรรค์ จัดสอบ จัดพิธีไหว้ครู จัดนิทรรศการ และจัดแข่งกีฬาแบดมินตัน รวมทั้งเป็นห้องเรียนห้องสอบด้วย โดยสร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2495
ในวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2495 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิด หอประชุมราชแพทยาลัย และพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ในหอประชุมนี้เป็นครั้งแรก จากนั้นได้ใช้เป็นสถานที่พระราชทานปริญญาบัตรสืบมาจนถึงปี พ.ศ. 2521 ได้ย้ายไปยังสวนอัมพร หอประชุมกองทัพเรือ (พ.ศ. 2551) และในปี พ.ศ. 2557 ได้ประกอบพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ณ มหิดลสิทธาคารจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ยังได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์มาทรงดนตรีพระราชทานให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลในหอประชุมนี้อีก ถึง 3 ครั้ง ในวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2515 และครั้งสุดท้ายในวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2516
ต่อมาในเดือนเมษายน พ.ศ. 2549 สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้พิจาณาถึงคุณค่าทางศิลปะและสถาปัตยกรรม จึงได้มอบรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ด้านการอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ปี 2549 ให้กับหอประชุมราชแพทยาลัย และศาลาท่าน้ำศิริราชด้วย
จัดทำโดย ฝ่ายจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์
หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล
© Copyright 2021 Mahidol University Archives and Museums, All right Reserved